kitty wedding

kitty wedding

วันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

วันที่ 11 เมษายน 2557 ตอนที่ 1 กินซูชิที่ตลาดปลา Tsukiji

วันนี้เราสองคนตื่นกันแต่เช้ากว่าปกตินิดนึง เพราะตั้งใจว่าวันนี้เราจะไปกินซูชิสดๆ กันที่ตลาดปลา Tsukiji  แต่ก็ไม่ได้ตื่นเช้าถึงขนาดตี 3 ตี 4 เพื่อที่จะไปจองคิวดูการประมูลปลามากูโร่หรอกนะ ตื่นขนาดนั้นสู้ไม่ไหวจริงๆ รอกินอย่างเดียวละกัน 555


จากที่พักของเรา เราต้องนั่งรถไฟใต้ดินจากสถานี KOKUSAI-TENJIJO-SEIMON (U11) ขึ้นสาย Yurikamome Line ลงสถานี SHIMBASHI (U01)ใช้เวลา 23 นาที ราคา 380 เยน พอถึงสถานี  SHIMBASHI (U01) ซึ่งเป็นของสาย Yurikamome แล้ว เราต้องเดินลงจากสถานีแล้วเดินต่อไปที่สถานี SHIMBASHI ของสาย Tokyo Metro เพื่อซื้อบัตร  Tokyo Metro 1-Day Open Ticket จากตู้ขายตั๋วอัตโนมัติ ราคา 710 เยน  เนื่องจากเราวางแผนไว้แล้วว่าวันนี้ทั้งวันสถานที่ที่เราจะไปทั้งหมดสามารถไปได้โดยรถไฟใต้ดินของ Tokyo Metro  ซึ่งเราจะขึ้นลงรถไฟใต้ดินของ Tokyo Metro ได้แบบไม่จำกัดเที่ยวภายใน 1 วัน คำนวนแล้วคุ้มกว่าซื้อเป็นเที่ยวๆ  
หน้าตาบัตร Tokyo Metro 1-Day Open Ticket
พอได้บัตร Tokyo Metro 1-Day Open Ticket เราก็เริ่มใช้กันที่สถานี SHIMBASHI กันเลยโดยต่อสาย Tokyo Metro Ginza Line (สายสีส้ม) ลงสถานี GINZA (G09) ใช้เวลา 2 นาที หลังจากนั้นต่อสาย Tokyo Metro Hibiya Line (สายสีเทา) ลงสถานี TSUKIJI (H10) ใช้เวลา 4 นาที แล้วออกทางออกที่ 1  จริงๆ แล้วการเดินทางมาตลาดปลา Tsukiji สถานีที่ใกล้ตลาดคือ สถานี tsukijishijo ซึ่งจะถึงตัวตลาดเลย แต่ที่เราเลือกมาลงที่สถานี TSUKIJI เนื่องจากเราอยากแวะมาดูวัดพุทธสึกิจิฮงงันจิ (Tsukiji Honganji) ซึ่งเป็นวัดที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแล้ว ไหนๆ ก็มาแถวนี้แล้วก็ขอแวะดูหน่อยแล้วกันนะ

ลักษณะวัดเป็นแบบตะวันตกผสมอินเดีย

ภายในเงียบสงบมาก
หลังจากชมเดินชมวัดและไหว้พระเพื่อเป็นสิริมงคลกันเรียบร้อยแล้ว เราสองคนก็เดินออกจากวัดเพื่อเดินไปยังตลาดปลา Tsukiji  กันต่อ ระหว่างทางเดินไปตลาดบริเวณรั้ววัดมีรูปเกี่ยวกับพุทธประวัติให้ดูกันตลาดแนวรั้วด้วย


และเราก็เดินมาถึงตลาดปลา Tsukiji กันแล้ว ตรงส่วนที่เราเดินเป็นโซนตลาดปลาส่วนนอก มีทั้งร้านขายของสด ของแห้ง ร้านอาหารต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นร้านซูชิ ร้านปลาไหลย่าง ร้านไข่หวานย่าง โอ๊ย! เยอะแยะมากมายเล่นเอาตาลายเลย










ร้านไข่หวานย่างเสียบไม้...ไม่ลองคงไม่ได้

ไข่หวานย่างร้อนๆ..หวานๆ...
ระหว่างเดินดูร้านค้าต่างๆ ท้องก็เริ่มร้องจ๊อกๆ ตอนนี้สายตาก็เริ่มสอดส่ายหาร้านซูชิกันละ ร้านซูชิดังๆ อย่างร้าน Daiwa Sushi ร้าน Sushi Dai ถ้ามาเวลานี้อย่างพวกเราก็คงไม่ได้กินแน่ๆ คิวยาวมาก ถ้าอยากกินจริงๆ คงต้องมารอเข้าแถวตั้งแต่ตี  จะกินทั้งทีทำไมต้องทรมานกันขนาดนี้ด้วย ขอบายแล้วกันนะ

ร้าน Sushi Dai ยอดนิยม...คิวยาวเหยียด T_T
เดินไปมาก็มาเจอร้านแถบๆ นี้ มีอยู่หลายร้าน คนน้อยดีไม่ต้องรอคิวด้วย ส่วนหน้าตาอาหารก็ดูใช้ได้อยู่ เอาน่า...ร้านอยู่ในตลาดเหมือนกัน ของมันก็ต้องสดเหมือนกันล่ะน่า

ลองร้านนี้ละกัน ชื่อร้านอะไรก็รู้

มีหลาย set ให้เลือก ไหนๆ ก็ไหนๆ เลือก Omakase – Set แล้วกัน Chef’s recommendation ซะด้วย

Chef ตั้งหน้าตั้งตาแล่ปลาอย่างตั้งใจ




รสชาติซูชิเราสองคนเห็นตรงกันว่าวัตถุดิบสดมาก แต่ปัญหามันอยู่ที่ข้าวซูชิที่เรารู้สึกว่ามันเปรี๊ยวมาก เปรี๊ยวมากกว่าที่เคยกิน (หรือว่าจริงๆ แล้วมันควรจะเปรี๊ยวมากแบบนี้หว่า ที่่ผ่านมาคือเราเข้าใจผิดหรือเปล่าว่าควรมีรสหวานประแหล่มๆ) เอาเป็นว่าเป็นรสชาติข้าวซูชิในแบบที่เราสองคนไม่คุ้นเคยดีกว่า เลยทำให้ค่อนข้างผิดหวังกับข้าวซูชิ ถ้าสั่งเป็นปลาดิบอย่างเดียวก็คงจะฟินกว่านี้  แต่ที่ชอบมากคือ ร้านเป็นลักษณะทำกันในครอบครัว บริการดีมาก คนก็ไม่พลุกพล่านนั่งกินไปถ่ายรูปกันไป ไม่ต้องรู้สึกผิดหรือกดดันที่มีคนมายืนรอระหว่างเราก็กิน แถมเจ้าของร้านยิ้มแย้มแจ่มใสช่วยถ่ายรูปให้เราสองคนด้วย รู้สึกประทับใจมาก



อาหารเช้าของเรากว่าเสร็จสิ้นก็ปาเข้าไป 10 โมงเช้า  สถานที่ต่อไปที่เราจะไปคือ วัด Sensoji หรือที่เรารู้จักกันในนามวัด Asakusa อ้อ! เกือบลืมตลาดปลา Tsukiji หยุดวันอาทิตย์นะคะ อย่าเผลอไปวันอาทิตย์กันละ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น