kitty wedding

kitty wedding

วันเสาร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

วันที่ 11 เมษายน 2557 ตอนที่ 2 เที่ยววัด Sensoji และถนน Nakamise

เนื่องจากวันนี้เราซื้อบัตร  Tokyo Metro 1-Day Open Ticket มาแล้วตั้งแต่เช้า ดังนั้น เพื่อเป็นการใช้บัตรอย่างคุ้มค่าเราเลยหาเส้นทางจากตลาดปลา Tsukuji ไปวัด Sensoji โดยรถไฟ Tokyo Metro ซึ่งการเดินทางของเราสองคน คือ จากสถานี Tsukiji (H 10) ต่อสาย Tokyo Metro Hibiya Line (สายสีเทา) ใช้เวลา 12 นาที ลงสถานี UENO (H 17)  แล้วต่อสาย Tokyo Metro Ginza Line (สายสีส้ม) ใช้เวลา 5 นาที ลงสถานี Asakusa (G19) แล้วทางออกหมายเลข พอออกจากสถานีมองไปทางซ้ายไม่ไกลมากเราก็จะเห็นสะพานแดง Azumabashi กับแม่น้ำ Sumida ที่มีตึกเบียร์ Asahi และ Tokyo Skytree เป็นฉากด้านหลังเลย

สะพานแดง Azumabashi ตึกเบียร์ Asahi และ Tokyo Skytree แลนด์มาร์กของย่านอะซะกุซะ
แม่น้ำ Sumida
เดินตัดสะพานแดงมาอีกฝั่ง ก็จะเป็นทางเดินยาวไปวัด Sensoji ด้านขวาเป็นสวนสาธารณะมีต้นซากุระเรียงรายไปตลอดทาง

ถ้าขี้เกียจเดินจะนั่งรถลากแบบนี้ก็ได้ไม่มีปัญหา สามารถหาได้ทั่วไปในย่านนี้ตั้งแต่หน้าสถานีรถไฟกันเลยทีเดียว (ถ่ายย้อนกลับไปทางที่เดินมา)

เดินดูต้นซากุระกันเพลินๆ พอเริ่มรู้สึกเมื่อยนิดๆ มองไปตรงทางแยกตรงซ้ายมือก็จะเจอทางเข้าวัด Sensoji
ถึงประตูทางเข้าวัด Sensoji ละ เข้าทางนี้คนน้อยดีจัง
ประตู Nitenmon นั่นเอง ประตูนี้เป็นประตูที่ใกล้กับสวนสาธารณะ จะเหมาะมากถ้าหากมาช่วงที่ดอกซากุระกำลังบาน
พอเดินผ่านประตูเข้ามาในบริเวณวัดเท่านั้นล่ะ  คนเยอะมากเล่นเอาตาลายเลย
พอเริ่มตั้งสติได้แล้ว เราก็เริ่มสำรวจไปรอบๆ บริเวณวัด  ที่แรกคือ Kannondo Hall 
สักการะองค์เจ้าแม่กวนอิมที่ Kannondo Hall 

เจดีย์ 5 ชั้น Gojunoto
 การโบกควันธูปเข้าหาตัวเอง เชื่อว่าจะช่วยให้หายเจ็บป่วยได้

ประตูชั้นใน Hozomon 
การที่จะรอให้ประตูว่างเพื่อถ่ายรูปไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยนะ ออกจากประตูนี้ ก็เป็นถนน Nakamise ถนนแห่งการช้อปปิ้ง
จากประตู Nitenmon ที่เราเดินเข้ามา ดูจะสวนทางกับคนอื่นๆ แต่ก็ดีเหมือนกัน ขืนผ่านถนน Nakamise ตั้งแต่ก่อนเข้าวัด คงไม่มีเวลาได้เดินดูวัดแน่ๆ เจอของล่อตาล่อใจดักจนหมดเวลาซะก่อน ฮาๆ
บรรยากาศถนนช้อปปิ้ง Nakamise 
ประเดิมร้านแรกร้าน Asakusa Kokonoe  ร้านซาลาเปาทอดชื่อดัง 

Asakusa Kokonoe  เป็นร้านขายซาลาเปาทอดชื่อดังของที่นี่ พอออกจากมาประตูชั้นใน Hozomon ร้านจะอยู่ทางซ้ายมือประมาณร้านที่  3 (ถ้าจำไม่ผิดนะ) สังเกตได้จากสัญลักษณ์ลิงตรงป้ายชื่อร้านและในร้าน นอกจากนี้ องค์จักรพรรดิญี่ปุ่นเคยเสด็จมาที่ร้านนี้ด้วย ไม่ลองไม่ได้แล้ว...

ซาลาเปาทอดไส้มันเทศ 170 เยน
ซาลาเปาทอดมีหลายรส เท่าที่กวาดสายตาดูอย่างรวดเร็ว มีรสชาเขียว ถั่วแดง ฟักทอง มันเทศ  คนก็เยอะไม่มีเวลาให้คิดอะไรมาก ขอเลือกรสมันเทศละกัน...คำแรกที่รู้สึกคือกรอบนอกนุ่มใน ตามมาด้วยรสหวานมัน (ก็มันคือมันเทศมิใช่หรา) ก็อร่อยดีนะ แต่ถ้าจะบอกว่าอร่อยถึงขั้นฝันถึง อันนั้นก็ไม่ใช่

ร้านของกินต่างๆ มากมาย
  
ร้านขายของฝากกุ๊กกิ๊กๆ

เดินไปจนสุดถนน Nakamise เราสองคนก็เดินย้อนกลับมาที่ประตูชั้นใน Hozomon อีกที เนื่องจากภารกิจยังไม่เรียบร้อย นั่นคือ การไปชิมเมล่อนปังกับ soft cream ที่ร้าน Asakusa Kagetsudo 

เดินกลับมาที่ประตูชั้นใน Hozamon พอใกล้ถึงประตูให้เลี้ยวขวาเดินตรงเข้าไปเลย นิดเดียวก็ถึงร้านละ 
เห็นป้ายร้านแบบนี้ โมเดลเมลอนปัง และ soft cream แบบนี้ใช่เลย
รสอะไรดีน๊า....
เมล่อนปัง 1 ชิ้น 200 เยน soft cream อันละ 250 เยน

หลังจากเข้าคิวไม่นาน ในที่สุดก็มาถึงมือเราสองคนจนได้ เมล่อนปังชิ้นละ 200 เยน ถ้าซื้อ 3 ชิ้น ลดเหลือ 500 เยน แต่ดูจากขนาดแล้ว 3 ชิ้นคงไม่ไหว แค่ชิ้นเดียวก็อันเท่าหน้าคนถือละ สำหรับ soft cream อันละ 250 เยน ของเรารสชาเขียว ส่วนโยกี้รสเมล่อน 

สำหรับเมล่อนปังแนะนำว่าควรกินตอนร้อนๆ จะอร่อยมาก  ด้านบนจะเป็นแป้งคุกกี้กรอบส่วนด้านล่างเป็นขนมปังเนยชุ่มๆ กินแล้วนึกถึง Rotiboy ส่วน soft cream ชาเขียวอร่อยดีชอบกลิ่นชาเขียว ขมๆ หวานๆ ส่วนรสเมล่อนโยกี้บอกว่าอร่อยแบบ soft cream เมล่อนทั่วๆ ไป

มื้อกลางวันนี้ออกแนว street food นิดนึงไม่ได้กินอะไรกันจริงจัง เดี๋ยวไปกินจุบกินจิบกันที่ตลาด Ameyoko ต่อนะคะ





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น